Niffler Bun มาปั้นนิฟเฟลอร์อ้วนๆ กันนะ

สวัสดีค่ะ ♥

ก็สมควรแก่เวลาที่จะอัพแล้วนะคะ เพราะดองบลอกนี้มานานเหลือเกิน เอาเวลาไปทำอะไรก็ไม่รู้เนอะ Y w Y

งาน Back to Bag /aka. Fantastic Beasts Only ทุกคนได้ไปกันรึเปล่าคะ ใครได้กินขนมปังนิฟเฟลอร์ฝีมือเค้าบ้างเอ่ย

(Cr: https://twitter.com/intoyou95 ขอบคุณที่ถ่ายมาสวยมากกเลย ♥)

…อืม คงมีคนไม่ได้กินเยอะกว่าได้กิน ขอโทษด้วยนะคะที่แบกไปได้แค่นั้น ในอนาคตถ้าเคียขับรถเองได้ก็คงรับปริมาณที่เยอะขึ้นได้

เอาล่ะ ใครที่พลาดก็ไม่ต้องเสียใจ อยู่ตรงนี้แล้วนี่ไงที่รัก

---

อยากเล่า…

กว่าจะเป็นเวอร์ชั่นปัจจุบัน นังตัวพวกนี้ผ่านการทดลองมา 4-5 ครั้ง

ครั้งแรกที่ตกลงรับงานนี้ไม่ได้คิดจะทำนิฟเฟลอร์หรอก

เราใช้แป้งเพรทเซลปั้นตัวออคคามี่

แป้งเพรทเซลง่ายต่อการดึงขึ้นรูป แถมอบแล้วขึ้นทรงสวย แต่ถ้าไม่แช่น้ำอุ่นกับผงเบกกิ้งโซดาก็จะออกมาอย่างที่เห็น มันจะแห้งๆแล้วสีก็จะไม่ขึ้นเป็นสีน้ำตาลแบบเพรทเซลป้าแอนที่เขาขายกัน  ซึ่งนังออคนี่ตัวมันใหญ่อยู่ ไม่สามารถเอาลงอ่างน้ำอุ่นได้ทีละหลายๆ ตัว

แถมตอนอบยังต้องใช้ไม้ค้ำยันคอไม่ให้ล้ม ถ้าหลายตัวก็ไม่ไหวเหมือนกัน

ครั้งที่ 2 ล้มเหลวทุเรศมาก จึงไม่มีรูปภาพจ้า

—–

ครั้งที่ 3 ใช้เรซิพีของ Feast of Starlight เป็น Fancy Bread …เราก็ไม่เก็ทเขาเหมือนกันที่เขาใช้แป้งเอนกประสงค์ (จริงๆ แล้ว ขนมปังต้องใช้ Bread Flour เป็นหลักเพราะมีโปรตีนในแป้งสูง มันจะทำงานกับยีสต์ได้ดี) แล้วก็ไม่ใส่ยีสต์ด้วย … ประหลาด สูตรประหลาด แต่รูปน่ารัก ก็โอเค ลองดูก็ได้

ผลออกมาคือ แป้งยอมให้ปั้นได้ แต่ไม่ฟูขึ้นเลย เพราะไม่มียีสต์นั่นเอง

ส่วนนิฟเฟลอร์ก็หน้าตาออกมาเป็นแมวน้ำบ้าง เม่นแคระบ้าง 555555 หน้าตาอาจจะน่ารัก ลองกัดเข้าไปสิ จะซึ้ง ว่ารสชาตินี่โคตรขนมปังโบราณ แข็ง กรอบ กินแล้วฟันแตก ขนาดเอาให้หมาที่บ้านกินมันยังวิ่งหนี

สรุปว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอม!

—

ครั้งที่ 4 ยอมแพ้กับการพยายามปั้นท่านั่ง จริงๆ คือเพราะนุ้งซาที่รัก แนะนำให้เปลี่ยนท่าเป็นนอนแหมะแบบขนมปังรูปสัตว์ที่ฝรั่งเว็บอื่นทำแล้วมันดู practical กว่า เลยลองดีไซน์ตัวนอนดู

ไปหาสูตรจากเว็บของคนไทยแทน ของฝรั่งชักจะเชื่อไม่ได้ละ (เว็บนี้จ้ะ จิ้ม)  จดมาลวกๆ ละลองทำ …

อ้าว ปรากฎว่าสตาฟเห็นรูปละโอเคกับความอ้วนของมัน 55555555 คือความฟลุคขั้นสุดเพราะไม่นึกว่าจะผ่าน ส่วนออคคามี่พอเป็นขนมปังที่พองขึ้นมากๆ แล้วก็คงต้องยอมรับแล้วก็ยอมแพ้ไป ขึ้นรูปยากมากๆ ขอโทษที่วันจริงไม่สามารถเข็นงูมีปีกออกมาได้นะคะ

ครั้งที่5 คือครั้งที่โอเคที่สุดค่ะ รูปก็ตาม featured image ของบลอกนี้เลย

---

สำหรับคนที่พลาดไป แล้วอยากลองทำเองบ้าง แต่ไม่มีเครื่องนวดขนมปัง

เคียยืนยันว่าสามารถใช้มือเปล่านวดได้จริงๆ ค่ะ ต้องอาศัยความอดทนนิดหน่อย เทคนิคอีกนิด และสิ่งที่ต้องทำก็คือเคลียร์โต๊ะของคุณให้สะอาด ปราศจากเชื้อโรค ถ้าเป็นไปได้เอาสเปรย์แอลกอฮอล์มาฉีดแล้วเช็ดซ้ำอีกทีก็จะดี

มาดูสูตรกันค่ะ

Niffler Bun

ของแห้งสามอย่างนี้รวมกัน

• แป้งขนมปัง 500 กรัม
• นมผง 25 กรัม
• ยีสต์ 7.5 กรัม

ของเหลว

• น้ำ 250 ml.
• ไข่ 1 ฟอง
• น้ำตาล 100 กรัม
• เกลือ 8 กรัม
• เนยเค็ม  75 กรัม (แยกออกมา)

และเม็ดงาดำไว้ทำลูกกะตาน้องค่ะ

ก่อนอื่นก็แยกแป้งจากส่วนผสมหลักออกมาสัก 1 กำมือ เอาไว้โรยบนโต๊ะตอนที่นวด จะได้ไม่เกินจากสูตร

เราแยกส่วนผสมหลักเป็นสามส่วนแบบนี้ (เนยเราเอาออกมาจากตู้เย็น ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องสักพัก )

ส่วนที่เป็นของเหลว คนให้น้ำตาลกับเกลือละลายรวมกัน

ผสมแป้ง นมผง ยีสต์ให้เขากัน ขุดบ่อตรงกลาง เทของเหลวลงไป

ใช้มือเคล้าให้เข้ากันในชามผสม เมื่อเริ่มเป็นเนื้อเดียวกันแล้วก็ใส่เนยลงไป

หลังจากบี้เนยเข้าด้วยกันแล้ว ให้ใช้แป้งที่เราแยกออกมา โรยบนโต๊ะ ก่อนจะนำขนมปังมานวดบนโต๊ะ

วิธีนวดขนมปังหลักๆ แล้วมีแค่ ดึงขึ้น – กดลงค่ะ

ตามภาพ คือ ใช้ 4 นิ้ว ยกเว้นนิ้วโป้ง ช้อนขนมปังขึ้นมา

แล้วก็ใช้สันมือกดลงไปกับโต๊ะ

ระหว่างนวด แป้งจะแฉะจะเหนียว เพราะของเหลวในเนื้อขนมปังเยอะ อนุญาตให้เติมแป้งขนมปังเพิ่มได้เพื่อให้นวดขึ้นมือง่ายขึ้น ถ้ามันติดโต๊ะมากก็หาไม้พายมาแซะแทนการดึง

การเทสว่านวดจนได้ที่แล้ว ถ้าเพลย์เซฟก็กัดฟันนวดไปสัก 20 นาทีห้ามหยุดล่ะค่ะ 555555 ถ้าเหนื่อยแล้วก็ลองใช้สันมือรวบแป้งโดเป็นก้อนเดียว แล้วเอานิ้วจิ้มแบบทัชๆ ดู ถ้าแป้งเด้งกลับมา ก็คือได้แล้ว ถ้ายังไม่ได้ก็นวดต่อไป

เอาน้ำมันหยดๆ ที่ชามผสมนิดนึงให้มันไม่ติด โกยก้อนแป้งโดลงไป ปิดแรปหลวมๆ (อย่าปิดอากาศหมด) หรือเอาผ้าสะอาดวางปิดข้างบน

ทิ้งเอาไว้ 45 นาที ในอุณหภูมิห้องเมืองไทยนี่แหละดีที่สุด

(ฝรั่งเขาต้องมีห้องบ่มขนมปัง เพราะเขาหนาว ส่วนของไทยนี่ทิ้งไว้ในห้องที่ไม่เปิดแอร์ก็ฟูแล้ว)

ผ่านไป 15 นาทีแล้ว จะเห็นว่าแป้งพองขึ้น เพราะยีสต์ได้กินแป้งและน้ำตาลเป็นอาหาร ทำให้เกิดฟองอากาศข้างในเนื้อขนมปังไงล่ะ

เราชกเนื้อโดเบาๆ 1 ที

เอาไม้พายตัดชิ้นแป้ง แบ่งเป็นชิ้นละ 100 กรัม สูตรนึงจะได้ 10 ชิ้นพอดี

หลังจากนี้รูปจะทุลักทุเลและโต๊ะจะเลอะมาก เพราะหลายเทคจัด 555555

นวลแป้งบนโต๊ะให้โดไม่ติดกับโต๊ะ แบ่งโด1 ก้อนเป็น 2ส่วนตามภาพ ส่วนที่แยกออกมาจะเป็นขาหลัง

ปั้นก้อนใหญ่ให้กลมดิ๊ก

(เราใช้ถาดอบเทฟลอน ถ้าใครไม่มี แนะนำให้รองด้วยกระดาษไข)

ล้างกรรไกรที่จะใช้ให้สะอาดมากๆ นะคะ ตั้งกรรไกรเป็นองศาแทยงตามภาพ  ตัดฉับ!

ดึงส่วนที่ตัดออกมาข้างหน้าเป็นปาก

สอดกรรไกรแงะตรงข้างๆ เป็นแขน

ทำทั้งสองข้าง เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

ตั้งองศากรรไกร ไม่ต้องใหญ่แบบตอนทำหัวละ

ดึงให้ออกมาเป็นหาง

จากนั้นแบ่งก้อนเล็กที่แยกไว้เป็น 2 ก้อน ยัดข้างใต้ ตำแหน่งที่เป็นขาหลังเจ้านิฟเฟลอร์ค่ะ

-ทิ้งไว้ 45 นาที หาผ้ามาคลุมกันฝุ่นด้วยนะคะ-

ระหว่างที่รอ เปิดเตาอบวอร์มที่ 180 องศาเซลเซียส ไฟบนล่างเท่ากัน

….

…….

45นาที ผ่านไป

พวกนางจะออกมาเผละอย่างที่เห็น คือนางจะอ้วนขึ้น 10 หน่วย

มีคนที่ซื้อในงานถามว่าทำไมไซส์มันใหญ่จัง ก็ดูเอาละกันค่ะ ตอนปั้นครั้งแรกมันก็เล็กๆ อยู่หรอก ท่าจะอมเหรียญทองมากไปหน่อย

แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ ใช้กรรไกรเล็มให้ได้อย่างต้องการ

*หลีกเลี่ยงการจับ ขยำ สัมผัสที่หนักมือไป น้องจะแฟบไปเลยค่ะ*

สิ่งที่เราทำคือ

• ใช้กรรไกรเล็มเป็นขนๆ บนหลัง
• จัดทรงหน้า ตบๆ ให้ไม่เบี้ยว
• กรรไกรตัดแต่งทรงเล็บมือเล็บเท้า
• ดึงหาง

หลังจากนั้น ตอกไข่ 1 ฟอง ผสมน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน ใช้แปรงทาบนตัวพวกนางเบาๆ มือ

พอเจ้าอ้วนเปียกไข่แล้ว เอาลูกกะตา (งาดำ) แปะลงไป

จากนั้นก็เข้าเตาอบ ใช้เวลาประมาณ 18-20 นาที ถ้าสีสวยแล้วก็เอาออกมาได้

ใครอยากได้รสชาติและกลิ่นเนยหอมๆ ให้เอาเนยจืดใส่ถ้วยเข้าไมโครเวฟจนเหลว แล้วทาบนผิวพวกนางอีกทีหลังออกจากเตาทันทีค่ะ

มากันเพียบ

มองจากข้างบน เป็นอย่างที่เห็น หน้าตาไม่เหมือนกันสักตัว 555555555555

หลังจากนั้นเราก็จับใส่แพ็คเกจ อัดกล่องไปส่งในงานพร้อมเหรียญทองช็อกโกแล็ตเป็นของแถม ฮิๆ

ลองไปทำกันดูนะคะ

และขอบคุณอีกครั้งสำหรับคนที่มาอุดหนุน สตาฟทุกคนโดยเฉพาะพี่หมึก และทุกคนที่มาต่อแถวเพราะอยากทาน ขอบคุณที่ให้ความสนใจนะคะ เราดีใจมากเลยที่ได้ทำของแบบนี้ออกมา จากที่ไม่เคยทำเลย มันมีความหมายกับเรามากจริงๆ ค่ะ

สำหรับคนที่ผ่านมาเจอบลอกนี้ แถบ Recipes ด้านบนขวาของบลอกมีรวมสูตรอาหารและขนมหลายอย่าง ลองเข้าไปอ่านดูได้นะคะ

เลิฟยอลค่ะ ♥

-kia